ภาพรวมตลาด
เมื่อวานนี้ (25 พฤษภาคม 2025) อุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลเผชิญกับการปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน โดย Bitcoin ลดลง 1.6% ภายใน 24 ชั่วโมง ปิดที่ระดับ $107,117 ท่ามกลางแรงขายที่เพิ่มขึ้นซึ่งเกิดจากคำเตือนเรื่องภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าจากสหภาพยุโรป ในขณะเดียวกัน Ethereum มีการปรับตัวลดลงในลักษณะเดียวกัน โดยลดลง 2.1% ปิดที่ $3,450 แม้ว่าปริมาณการเทรดภายใน 24 ชั่วโมงจะเพิ่มขึ้น 15% เป็น $800 ล้านในตลาดเทรดหลัก ๆ โดยภาพรวม มูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดลดลงประมาณ $40 พันล้าน โดยลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ $3 ล้านล้าน ขณะที่ปริมาณการเทรดของ 10 อันดับแรกของสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 18% ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมการเทรดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างการปรับตัวลดลงนี้
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเปลี่ยนไปสู่ความระมัดระวัง โดยดัชนี Crypto Fear & Greed Index อยู่ที่ 69 ซึ่งแสดงถึงความรู้สึก "Greed" แม้ว่าความผันผวนของตลาดจะยังบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนที่มีอยู่
ตัวชี้วัดทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่า Relative Strength Index (RSI) ของ Bitcoin อยู่ที่ 68 ซึ่งเข้าใกล้พื้นที่ของการถูกซื้อมากเกินไป ขณะที่ RSI ของ Ethereum อยู่ที่ 65 ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวราคาที่เพิ่มขึ้น
พัฒนาการสำคัญ
-
การขู่เรียกเก็บภาษี EU ของทรัมป์
การประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษี 50% สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมดจาก EU ซึ่งมีกำหนดเริ่มต้นในวันที่ 1 มิถุนายน ส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างรุนแรง ทำให้นักลงทุนเทขายคริปโตอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมรับมือกับความผันผวนของตลาดโลกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต -
รูปแบบทางเทคนิคของ Ethereum ร่วงลง
รูปแบบหัวและไหล่กลับหัวเชิงบวกของ Ethereum ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ไม่สามารถทะลุระดับทริกเกอร์ที่ $2,900 ได้อย่างชัดเจน แต่กลับถอยลงมาสู่จุดสนับสนุนหลักท่ามกลางความผันผวนของตลาดโดยรวม นักวิเคราะห์แนะนำว่าการปรับตัวขึ้นเหนือระดับ $2,900 อย่างยั่งยืนจะช่วยฟื้นฟูโมเมนตัมขาขึ้น -
ความแข็งแกร่งของ Meme Coin
แม้ตลาดคริปโตหลักจะตกต่ำ แต่โทเคนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมีม เช่น Wojak Coin ยังคงแสดงความแข็งแกร่ง โดยมีการเพิ่มขึ้นของราคาถึง 5% และปริมาณ การเทรด 12% เนื่องจากการรวมตัวของชุมชนผลักดันความสนใจในโทเคนเหล่านี้
ในอนาคต ผู้เข้าร่วมตลาดจะจับตาดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงการอัปเดตจาก SEC เกี่ยวกับ ETFs ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงเงินทุนใหม่เข้าสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัล