สุดสัปดาห์นี้กำลังเร่งทำการบ้าน ในช่วงเวลาที่ผ่านมาฉันได้ติดตาม @GOATRollup อย่างต่อเนื่อง และมันได้มอบความรู้สึกที่ค่อนข้างน่าประหลาดใจให้กับฉัน จากเดิมที่เริ่มต้นด้วยความคิดว่า “ลองใช้บล็อกเชนใหม่ดู” แต่กลับกลายเป็นการ “ใช้งานมันเหมือนเครื่องมือในชีวิตประจำวัน” ไม่ใช่เพราะแรงจูงใจในระยะสั้น แต่เพราะมันเริ่มแก้ไขปัญหาในโลกของบิตคอยน์ที่ไม่มีใครลงมือจัดการมานาน เช่น Safebox ในอดีตหลายคนมักถามว่า: “บิตคอยน์สามารถรักษาความปลอดภัยแบบการดูแลทรัพย์สินด้วยตัวเอง (self-custody) และในขณะเดียวกันก็สร้างรายได้ที่มั่นคงได้ไหม?” คำตอบในอดีตคือ การฝากไว้กับผู้ให้บริการแบบรวมศูนย์ (centralized custody) เพื่อแลกกับดอกเบี้ย แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงจากแพลตฟอร์ม หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือการดูแลทรัพย์สินแบบสมบูรณ์ด้วยตนเอง (self-custodial) ซึ่งปลอดภัยแต่สินทรัพย์จะไม่ได้ใช้งาน Safebox ได้นำเสนอแนวทางที่สอดคล้องกับจิตวิญญาณของบิตคอยน์มากขึ้น: เหรียญจะยังคงอยู่ในกระเป๋าสตางค์ของคุณ ใช้สคริปต์ล็อกเวลา (time-lock script) เพื่อสร้าง UTXO หนึ่งชุดที่ปลดล็อกโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไป 90 วัน และในขณะเดียวกันก็ให้ผลตอบแทน BTC ดั้งเดิมที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ วิธีนี้ทำให้ “ผลตอบแทน” ขึ้นอยู่กับกลไก ไม่ใช่ความไว้วางใจในบุคคลที่สาม หากสนใจก็สามารถลองดูได้ที่: https://t.co/06BsXXOx7b แนวคิดเดียวกันยังแทรกซึมไปใน GOATUP, OKU และ Lucky Draw เช่นกัน S4 ไม่ได้มองว่าผู้เข้าร่วมเป็น “ผู้ปฏิบัติภารกิจ” แต่กลับทำให้พฤติกรรมของพวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของวงจรเศรษฐกิจ: การซื้อขาย การตั้งคำสั่ง การให้สภาพคล่อง (LP) การสะสมคะแนน การจับสลาก ทุกขั้นตอนทิ้งร่องรอยที่แท้จริงไว้บนบล็อกเชน การมีส่วนร่วมจะสะสม และรางวัลมักจะถูกมอบให้กับผู้ที่ใช้งานเครือข่ายจริง ๆ มากกว่าผู้ที่พยายามสร้างปริมาณปลอม ๆ จุดนี้แสดงออกอย่างชัดเจนผ่านกลไกการให้คะแนนในการซื้อขาย ซึ่งไม่ใช่ “ใครคลิกมากก็ได้รางวัลมาก” แต่เป็น “ใครที่ทำให้เครือข่ายนี้ใช้งานได้ดีขึ้น” ตรรกะได้เปลี่ยนจาก “การกระทำ” ไปสู่ “การมีส่วนร่วม” จาก “การปฏิบัติภารกิจ” สู่ “ทำให้เครือข่ายดำเนินไปได้” ทีละเล็กละน้อย พฤติกรรมของผู้ใช้ GOAT หลายคนไม่ได้เป็น “การทำภารกิจให้เสร็จ” อีกต่อไป แต่กลายเป็นนิสัย: เปิด GOATUP เพื่อตรวจสอบสถานะพอร์ตการลงทุน การตั้งคำสั่งใน OKU การจับ Lucky Draw สองสามครั้ง ดูการสะสมผลตอบแทน หรือคล้ายกับฉัน ที่มักจะเปิดหน้า Safebox ทุกสองสามวันเพื่อตรวจสอบสถานะของ time-lock การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ฉันคิดใหม่เกี่ยวกับความหมายของ BTCFi บางทีเป้าหมายของมันอาจไม่ใช่การ “เปลี่ยนแปลงบิตคอยน์” แต่เป็นการทำให้บิตคอยน์กลายเป็นสินทรัพย์ที่สามารถใช้งาน มีส่วนร่วม และแสดงตนบนบล็อกเชนได้อย่างแท้จริง ตั้งแต่แรก บิตคอยน์มีแนวคิดว่าเป็น “สกุลเงินแบบกระจายศูนย์” แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันกลับกลายเป็นเหมือนตำนานในพิพิธภัณฑ์มากกว่า เส้นทางของ GOAT ไม่ใช่การติดป้ายชื่อใหม่ให้กับมัน แต่เป็นการนำมันกลับมาในระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง—เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่ในฐานะของ “การบริโภค” แต่เป็นการมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของเครือข่าย ถ้าคุณถามฉันว่า GOAT Network กำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้ ฉันจะพูดว่า: มันไม่ได้สร้างเพียงแค่นิเวศแอปพลิเคชัน แต่กำลังทำให้ “การใช้บิตคอยน์เพื่อมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจ” กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้อีกครั้ง ไม่ได้แค่พูดลอย ๆ หรือฝันกลางวัน แต่กำลังลงมือทำจริง ๆ: ผลตอบแทนที่แท้จริง หลักฐานบนบล็อกเชน การดูแลทรัพย์สินด้วยตนเอง การสืบทอดความปลอดภัย และการมองเห็นพฤติกรรมของผู้ใช้ ดังนั้น ฉันจึงรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่านี่ไม่ใช่แค่กิจกรรมระยะสั้น แต่เหมือนเป็นเส้นทางที่กำลังถูกใช้งาน ถูกเขียน และถูกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และพวกเราที่กำลังทิ้งร่องรอยไว้บนเครือข่าย อาจเป็นผู้เข้าร่วมกลุ่มแรกในเรื่องราว BTCFi ในอนาคต #GOATNetwork @KaitoAI

แชร์







แหล่งที่มา:แสดงต้นฉบับ
คำปฏิเสธความรับผิดชอบ: ข้อมูลในหน้านี้อาจได้รับจากบุคคลที่สาม และไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงมุมมองหรือความคิดเห็นของ KuCoin เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยไม่มีการรับรองหรือการรับประกัน และจะไม่ถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน KuCoin จะไม่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดหรือการละเว้นในเนื้อหา หรือผลลัพธ์ใดๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลนี้
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอาจมีความเสี่ยง โปรดประเมินความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์และความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้อย่างรอบคอบตามสถานการณ์ทางการเงินของคุณเอง โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ข้อกำหนดการใช้งานและเอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา