การขุดคริปโตคืออะไร และทำงานอย่างไร

2025/08/18 09:27:02

คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ และอาจรู้ด้วยซ้ำว่ามันถูก “ขุด” แต่จริง ๆ แล้วการขุดคืออะไร? ไม่ใช่เรื่องของพลั่วและดินอย่างแน่นอน แต่แท้จริงแล้วการขุดคริปโตเป็นกระบวนการดิจิทัลที่ช่วยขับเคลื่อนเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ เช่น Bitcoin

สิ่งสำคัญของการขุดคริปโตคือการใช้คอมพิวเตอร์ทรงพลังแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ปัญหาเหล่านี้ถูกออกแบบให้แก้ได้ยากแต่ตรวจสอบง่ายสำหรับเครือข่าย เมื่อผู้ขุดแก้ปัญหาได้ พวกเขาจะสามารถเพิ่ม "บล็อก" ใหม่ของธุรกรรมที่ได้รับการยืนยันเข้าไปในบล็อกเชน ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่าProof of Work(PoW) เปรียบเสมือนการแข่งขันระดับโลกที่คอมพิวเตอร์หลายพันเครื่องแข่งขันกันเพื่อเป็นคนแรกที่แก้ปริศนาดิจิทัล ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ในการลงทะเบียนหน้าถัดไปในบัญชีแยกประเภททั่วโลก

วัตถุประสงค์สองประการของการขุด

การขุดทำหน้าที่สำคัญสองประการที่ช่วยรักษาสุขภาพและความปลอดภัยของเครือข่ายบล็อกเชน

การรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย: การใช้พลังงานการประมวลผลจำนวนมากทำให้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับผู้ไม่หวังดีในการพยายามเปลี่ยนแปลงเครือข่าย หากต้องการเปลี่ยนแปลงบล็อกเดียว ผู้ขุดจะต้องทำงานซ้ำทั้งหมดของผู้ขุดที่ทำงานหลังจากพวกเขา
การสร้างเหรียญใหม่: การขุดเป็นวิธีเดียวที่คริปโตเคอร์เรนซีใหม่เข้าสู่ระบบ ในฐานะรางวัลสำหรับการทำงาน ผู้ขุดคนแรกที่แก้บล็อกจะได้รับเหรียญใหม่ในจำนวนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า รวมถึงค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบล็อกนั้นด้วย นี่คือแนวคิดพื้นฐานของหลักการขุด Bitcoinและคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ แบบ PoW

การพัฒนาการขุดตั้งแต่ CPU สู่ Mining Pools

เครดิต: CoinDeskและASICmarketplace

วิธีการขุดได้วิวัฒนาการอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ยุคแรกเริ่ม (การขุดด้วย CPU/GPU)ในช่วงเริ่มต้น ผู้ที่มีคอมพิวเตอร์มาตรฐานสามารถเข้าร่วมได้ นักขุดใช้หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) และต่อมาใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ในการขุด แม้ว่าคู่มือสำหรับGPU miningยังสามารถหาได้ แต่วิธีนี้ไม่สามารถสร้างผลกำไรได้อีกต่อไปสำหรับคริปโตเคอเรนซีหลัก ๆ เนื่องจากมีการแข่งขันสูงมาก
การเพิ่มขึ้นของ ASICs: เมื่อความยากในการขุดเพิ่มขึ้น จึงเกิดเครื่องมือเฉพาะทางที่เรียกว่าApplication-Specific Integrated Circuits (ASICs)ขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องที่ถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์เฉพาะทางเดียวเท่านั้น นั่นคือcrypto mining โดย ASICs มีประสิทธิภาพสูงกว่าทั้ง CPU และ GPU ทำให้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับการดำเนินงานในระดับใหญ่

Image: bitstamp

การเข้าร่วมกลุ่มขุด (Mining Pool): ในปัจจุบัน โอกาสที่นักขุดรายบุคคลจะสามารถแก้โจทย์บล็อกด้วยเครื่องเดียวได้แทบไม่มีเลย นี่จึงเป็นที่มาของmining pools ซึ่งกลุ่มนักขุดนับพันรวมพลังการประมวลผล (hash rate) เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหาบล็อกสำเร็จ เมื่อกลุ่มขุดแก้โจทย์บล็อกสำเร็จ รางวัลจะถูกแบ่งสรรให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดตามสัดส่วนของ hash power ที่พวกเขาได้มีส่วนร่วม หากคุณสงสัยว่าจะเลือกกลุ่มขุดอย่างไร นี่เป็นวิธีที่นิยมและเหมาะสมในการเริ่มต้น คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานได้โดยไปที่แพลตฟอร์ม เช่นhttps://www.kucoin.com/mining-pool.

คู่มือขั้นตอนการขุดคริปโต

มันทำงานอย่างไร? มาดูทีละขั้นตอนกัน

การขุดในแก่นแท้ของมันคือการแข่งขันเพื่อสร้าง "บล็อก" ใหม่ของธุรกรรมและเพิ่มลงในบล็อกเชน นี่คือภาพรวมแบบง่าย ๆ ของขั้นตอน

การรวบรวมธุรกรรมกระบวนการเริ่มต้นเมื่อธุรกรรมใหม่ถูกเผยแพร่ไปยังเครือข่าย ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณส่ง Bitcoin ให้เพื่อน ธุรกรรมนั้นจะถูกประกาศออกมาสู่สาธารณะ แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน โดยมันจะอยู่ในพื้นที่รอที่เรียกว่า "mempool" พร้อมกับธุรกรรมอื่น ๆ อีกหลายพันรายการ รอให้นักขุดหยิบไปประมวลผล
การแข่งขันเพื่อแก้โจทย์แต่ละนักขุด (คอมพิวเตอร์หรือกลุ่มคอมพิวเตอร์) แข่งขันกันเพื่อเป็นคนแรกที่แก้ปัญหาการเข้ารหัสที่ซับซ้อน โดยคอมพิวเตอร์ของนักขุดจะนำธุรกรรมที่ยังไม่ได้รับการยืนยันมาผสมกับตัวเลขพิเศษที่เรียกว่า "nonce" และใช้ฟังก์ชันการเข้ารหัส (อัลกอริทึมแฮช) กับข้อมูลดังกล่าว กระบวนการนี้จะสร้างชุดตัวอักษรและตัวเลขยาว ๆ ที่เรียกว่า "hash"
การค้นหาแฮชที่ถูกต้อง เป้าหมายคือการค้นหาแฮชที่ตรงตามเป้าหมายเฉพาะที่ตั้งค่าโดยเครือข่าย คิดเหมือนกับการเล่นลอตเตอรี่: คอมพิวเตอร์ของนักขุดจะลองเดา nonce หลาย ๆ ครั้ง ทำให้เกิดแฮชใหม่ทุกครั้งที่เดา เป็นเกมเดาแบบ brute-force และ "hash rate" ของคอมพิวเตอร์จะเป็นตัววัดว่าเดาได้กี่ครั้งต่อวินาที นักขุดคนแรกที่ค้นพบแฮชที่ตรงตามเป้าหมายความยากของเครือข่ายจะชนะการแข่งขัน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม Tutorial of BTC Hashrate Connecting >>>
การประกาศผลลัพธ์ เมื่อมีนักขุดค้นพบแฮชที่ชนะ พวกเขาจะส่งผลลัพธ์ (บล็อกใหม่) ไปยังเครือข่ายทั้งหมดทันที นักขุดคนอื่น ๆ จะตรวจสอบผลลัพธ์ ซึ่งกระบวนการนี้ทำได้ง่ายและรวดเร็ว หลังจากตรวจสอบแล้ว บล็อกธุรกรรมใหม่จะถูกเพิ่มลงไปในบล็อกเชนอย่างถาวร
รางวัล นักขุดที่ประสบความสำเร็จจะได้รับรางวัลเป็นคริปโตใหม่ที่ถูกสร้างขึ้น (เรียกว่า "block reward" ) และค่าธรรมเนียมธุรกรรมทั้งหมดจากธุรกรรมที่อยู่ในบล็อกนั้น รางวัลนี้คือแรงจูงใจหลักที่ทำให้นักขุดยังคงให้กำลังคอมพิวเตอร์กับเครือข่าย

ค่าใช้จ่ายสูงของการเดินทางในโลกการขุด

แม้ว่าความน่าสนใจของการหารายได้จากคริปโตจะดึงดูดใจ แต่การเดินทางนี้ไม่ได้ปราศจากความท้าทาย คำถาม "การขุดคริปโตที่บ้านเป็นไปได้จริงหรือ?" มักนำไปสู่การตรวจสอบความจริงอย่างรวดเร็ว อุปสรรคหลัก ๆ ได้แก่:

ค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์ : เครื่องการขุดแบบมืออาชีพ มีราคาสูง ต้องการเงินลงทุนเริ่มต้นที่มาก
การใช้พลังงานไฟฟ้า : กำลังไฟฟ้าปริมาณมหาศาลที่จำเป็นต้องใช้เพื่อให้เครื่องทำงานตลอดเวลา ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงมาก อันที่จริง ค่าไฟฟ้ามักเป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่ใหญ่ที่สุด
การแข่งขันและความยาก : เมื่อมีนักขุดมากขึ้นในเครือข่าย ความยากของปัญหาทางคณิตศาสตร์จะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้ทำให้ การคำนวณกำไรจากการขุด กลายเป็นงานที่ซับซ้อน เนื่องจากคุณต้องคำนวณความยากที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและราคาของคริปโต

มองไปข้างหน้า: PoW vs. PoS

การใช้พลังงานสูงของ Proof of Work ( PoW) ได้ผลักดันให้บล็อกเชนบางส่วนนำเสนอวิธีการทางเลือกใหม่ หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจคือProof of Stake (PoS) ซึ่งเครือข่ายจะได้รับการรักษาความปลอดภัยโดยผู้ตรวจสอบที่ "stake" หรือล็อคเหรียญที่พวกเขามีอยู่ไว้เป็นหลักประกัน วิธีนี้ใช้พลังงานน้อยกว่ามาก และถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าสำหรับอนาคตของคริปโตเคอเรนซี

แม้ว่าจะมีโมเดลใหม่เหล่านี้การขุดคริปโตยังคงเป็นหัวใจสำคัญของวิสัยทัศน์การกระจายศูนย์แบบดั้งเดิม มันคือกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้พลังงานมาก ซึ่งช่วยรักษาความสมบูรณ์และความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีค่าที่สุดของเรา ถือเป็นการเดินทางที่ผสมผสานเทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์ และพลังการประมวลผลจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างระบบการเงินแบบกระจายศูนย์อย่างแท้จริง

อ่านเพิ่มเติม:

คำปฏิเสธความรับผิดชอบ: หน้านี้แปลโดยใช้เทคโนโลยี AI (ขับเคลื่อนโดย GPT) เพื่อความสะดวกของคุณ สำหรับข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด โปรดดูต้นฉบับภาษาอังกฤษ