การขโมยและการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล: เหตุใดมาตรการทางแพ่งจึงมักล้มเหลว

iconAiCoin
แชร์
Share IconShare IconShare IconShare IconShare IconShare IconCopy

ตามรายงานของ AiCoin มีกรณีในโลกจริงสองกรณีที่เน้นให้เห็นถึงความท้าทายที่เหยื่อต้องเผชิญในการเรียกร้องค่าชดเชยทางแพ่งจากการโจรกรรมและการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล ในกรณีแรก บริษัทต่างชาติได้ส่งเงิน 800,000 USDT ไปยังพนักงานชาวจีนของบริษัทแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศคนหนึ่ง ซึ่งภายหลังได้หายตัวไป แม้จะพยายามยื่นเรื่องร้องเรียนทางอาญา แต่ตำรวจท้องถิ่นกลับปฏิเสธที่จะรับคดีในขั้นแรก ในกรณีที่สอง หญิงสาวรายหนึ่งสูญเสียเงินกว่า 3 ล้านหยวน หลังจากพยายามแปลงเงินเป็น USDT ผ่านบุคคลที่สามแต่กลับโดนหลอกลวง แม้ว่าคนกลางจะถูกจับกุม แต่เขาก็ไม่ได้ถูกเชื่อมโยงกับการฉ้อโกงหลัก และความพยายามที่จะดำเนินคดีทางแพ่งก็ล้มเหลว ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายชี้ให้เห็นว่าการเยียวยาทางแพ่งมักถูกขัดขวางเมื่อการสอบสวนทางอาญากำลังดำเนินอยู่หรือได้สิ้นสุดลงโดยไม่ได้มีการชดเชยเต็มจำนวน เหยื่อส่วนใหญ่มักเหลือทางเลือกที่จำกัด เช่น การพึ่งพาจำเลยในคดีอาญาให้เสนอการชำระเงินบางส่วนเพื่อแลกกับการลดโทษ

แหล่งที่มา:แสดงต้นฉบับ
คำปฏิเสธความรับผิดชอบ: ข้อมูลในหน้านี้อาจได้รับจากบุคคลที่สาม และไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงมุมมองหรือความคิดเห็นของ KuCoin เนื้อหานี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยไม่มีการรับรองหรือการรับประกัน และจะไม่ถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน KuCoin จะไม่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดหรือการละเว้นในเนื้อหา หรือผลลัพธ์ใดๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลนี้ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอาจมีความเสี่ยง โปรดประเมินความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์และความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้อย่างรอบคอบตามสถานการณ์ทางการเงินของคุณเอง โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ข้อกำหนดการใช้งานและเอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา