img

ความแตกต่างระหว่างกระเป๋าเงินคริปโตแบบมีผู้ดูแลและแบบไม่มีผู้ดูแล

2022/09/05 10:00:49

ความปั่นป่วนล่าสุดในตลาดคริปโตได้กระตุ้นการพูดคุยเกี่ยวกับความปลอดภัยของสินทรัพย์คริปโตอีกครั้ง หากคุณเคยเทรดคริปโตเคอร์เรนซีมาสักระยะหนึ่ง คุณอาจเคยได้ยินวลีที่ว่า “ไม่ใช่กุญแจของคุณ ก็ไม่ใช่เหรียญของคุณ”

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกประเด็นดังกล่าว โดยสำรวจความแตกต่างที่สำคัญระหว่างกระเป๋าเงินคริปโตแบบมีผู้ดูแลและแบบไม่มีผู้ดูแล เมื่ออ่านบทความจบ เราหวังว่าคุณจะไม่เพียงเข้าใจประเภทต่าง ๆ ของกระเป๋าเงินดิจิทัล แต่ยังสามารถตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดตามความต้องการของคุณ

กระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแล vs. กระเป๋าเงินแบบไม่มีผู้ดูแล: บทสรุป

กระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแล (Custodial Wallet) คือประเภทที่กุญแจส่วนตัวถูกจัดเก็บโดยบุคคลที่สาม ซึ่งมักจะเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตหรือบริการออนไลน์ ในขณะที่กระเป๋าเงินแบบไม่มีผู้ดูแล (Non-Custodial Wallet) คือประเภทที่ผู้ใช้งานเป็นผู้ถือครองกุญแจส่วนตัวด้วยตนเอง

ข้อได้เปรียบสำคัญของกระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแลคือใช้งานง่าย คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการสร้างหรือสำรองกุญแจส่วนตัว เพราะบริการจะจัดการให้คุณ อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือคุณต้องพึ่งพาความปลอดภัยของบริการนั้น และคุณไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ของคุณจริง ๆ

ในทางตรงกันข้าม กระเป๋าเงินแบบไม่มีผู้ดูแลช่วยให้คุณควบคุมกุญแจส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าคุณต้องรับผิดชอบในการสำรองและปกป้องกุญแจด้วยตนเอง แต่คุณก็จะได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์อย่างแท้จริง เราแนะนำให้ใช้กระเป๋าเงินแบบไม่มีผู้ดูแล หากคุณกำลังมองหาความปลอดภัยและความสบายใจที่มากกว่า และเลือกกระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแล หากคุณต้องการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เราได้ทราบภาพรวมอย่างคร่าว ๆ แล้ว เรามาเจาะลึกหัวข้อนี้เพิ่มเติมกัน

กระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแลคืออะไร?

กระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแล (Custodial Wallet) คือกระเป๋าเงินคริปโตที่กุญแจส่วนตัวของกระเป๋าถูกจัดเก็บโดยบุคคลที่สาม ประเภทของกระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแลที่พบบ่อยที่สุดคือกระเป๋าเงินบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ซึ่งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนจะถือกุญแจส่วนตัวแทนผู้ใช้งานของพวกเขา

ข้อได้เปรียบหลักของ Custodial Wallet คือความง่ายต่อการใช้งาน คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการสร้างหรือสำรองคีย์ส่วนตัว เนื่องจากบริการจะจัดการเรื่องนี้ให้คุณ

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบคือ Custodial Wallet มักจะเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ทำให้คุณสามารถซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีหรือใช้งานสินทรัพย์ที่คุณถือครองได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของ Custodial Wallet คือคุณต้องพึ่งพาความปลอดภัยของบริการ และคุณไม่มีความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ของคุณจริง ๆ หากบริการถูกแฮ็กหรือล้มละลาย คุณอาจสูญเสียสินทรัพย์ของคุณ

อีกข้อเสียคือ Custodial Wallet โดยทั่วไปมักไม่ได้ให้ระดับความปลอดภัยที่เทียบเท่ากับ Non-Custodial Wallet เนื่องจากมักลดฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยบางส่วนเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย

ข้อดีของ Custodial Wallet

  • - ใช้งานง่าย
  • - มีบุคคลที่สามจัดการความปลอดภัยให้
  • - ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีหรือลงทุนในผลิตภัณฑ์การเทรด/การลงทุนอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย
  • - สามารถกู้คืนบัญชีได้ง่ายในกรณีที่คุณลืมรหัสผ่าน

ข้อเสียของ Custodial Wallet

  • - คุณไม่ได้ถือคีย์ของกระเป๋าเงินด้วยตัวเอง
  • - อาจมีระดับความปลอดภัยต่ำกว่า
  • - โดยส่วนใหญ่คุณจำเป็นต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และการปฏิบัติตามข้อกำหนดป้องกันการฟอกเงิน (AML)

Custodial Wallet ที่ดีที่สุดคืออะไร?

ไม่มี Custodial Wallet ใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน เนื่องจากแต่ละกระเป๋าเงินมีความเหมาะสมมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความรู้ ความยอมรับค่าธรรมเนียม กลยุทธ์การเทรด ฯลฯ ของคุณ

KuCoin ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงคริปโตเคอร์เรนซีกว่า 700+ สกุลเงิน โดยเกือบทั้งหมดมีสภาพคล่องในระดับสูงสุด นอกจากนี้ยังให้ผู้ใช้งานซื้อคริปโตด้วยสกุลเงินเฟียตกว่า 48 สกุลเงิน อีกทั้งยังให้ผู้ใช้งานที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) ถอนเงินได้สูงสุดถึง 1 BTC ต่อวัน และเทรด Futures ด้วยเลเวอเรจสูงสุดถึง 5x ในทางกลับกัน เมื่อผู้ใช้งานตัดสินใจผ่านกระบวนการ KYC ขีดจำกัดการใช้งานจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

KuCoin มีฟีเจอร์ระดับพรีเมียมมากมาย ทำให้ยากที่จะมีแพลตฟอร์มอื่นมาแข่งขันได้ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มอื่นบางแห่งอาจให้ฟีเจอร์เพิ่มเติมบางอย่างโดยแลกกับการลดทอนฟีเจอร์อื่น ดังนั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการทำอะไรกับสินทรัพย์คริปโตที่คุณเพิ่งได้มา

Non-Custodial Wallet คืออะไร?

กระเป๋าเงินแบบไม่คัสโตเดียล (Non-Custodial Wallet) คือกระเป๋าเงินที่ตรงข้ามกับกระเป๋าเงินแบบคัสโตเดียล (Custodial Wallet) อย่างสิ้นเชิง ด้วยกระเป๋าเงินแบบไม่คัสโตเดียล คุณจะเป็นผู้สร้างและถือครองกุญแจส่วนตัวของคุณเอง ซึ่งหมายความว่าคุณมีสิทธิ์ควบคุมสินทรัพย์คริปโตของคุณอย่างครบถ้วน และคุณจะต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของสินทรัพย์นั้นเอง

ข้อได้เปรียบสำคัญของกระเป๋าเงินแบบไม่คัสโตเดียล คือการมีระดับความปลอดภัยที่สูงกว่ากระเป๋าเงินแบบคัสโตเดียล เนื่องจากคุณเป็นเพียงผู้เดียวที่เข้าถึงกุญแจส่วนตัวของคุณได้ ดังนั้น แม้ว่าบริการที่คุณใช้งานจะถูกแฮ็ก สินทรัพย์คริปโตของคุณก็ยังคงปลอดภัย คุณไม่จำเป็นต้องพึ่งพาฟีเจอร์ความปลอดภัยของบุคคลที่สาม เพราะคุณสามารถตั้งค่าความปลอดภัยของตัวคุณเองเพื่อปกป้องสินทรัพย์ของคุณได้

อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของกระเป๋าเงินแบบไม่คัสโตเดียล คือกระเป๋าเงินส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ได้ เนื่องจากคุณมีสิทธิ์ควบคุมกุญแจส่วนตัวของคุณเองอย่างสมบูรณ์ และสามารถใช้งานได้มากกว่าการเก็บหรือเทรดคริปโต ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้กุญแจส่วนตัวในการใช้งานแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ได้

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของกระเป๋าเงินแบบไม่คัสโตเดียล คือมันใช้งานได้ไม่ง่ายเท่ากับกระเป๋าเงินแบบคัสโตเดียล เพราะคุณจำเป็นต้องสร้างและสำรองข้อมูลกุญแจส่วนตัวของคุณ ซึ่งอาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน หากคุณทำกุญแจส่วนตัวหรือคำกู้คืน (Recovery Phrase) หาย คุณจะไม่สามารถกู้คืนเงินของคุณได้

ข้อเสียอีกข้อหนึ่งคือ กระเป๋าเงินแบบไม่คัสโตเดียลมักจะไม่มีบริการสนับสนุนลูกค้าในระดับเดียวกับกระเป๋าเงินแบบคัสโตเดียล เนื่องจากกระเป๋าเงินแบบนี้ยังไม่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้มีคนรู้จักและเข้าใจการใช้งานน้อยกว่า

กุญแจส่วนตัวและคำกู้คืนในกระเป๋าเงินแบบไม่คัสโตเดียล

เราไม่สามารถพูดถึงกระเป๋าเงินแบบไม่คัสโตเดียลได้โดยไม่พูดถึงสิ่งที่ทำให้กระเป๋าเงินแบบนี้มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งการปกป้องกุญแจส่วนตัวถือเป็นประเด็นที่นักลงทุนมือใหม่มักขาดความรู้

กุญแจส่วนตัว (Private Key) เป็นรหัสที่มีลักษณะเฉพาะ ประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลขในรูปแบบยาว ซึ่งใช้แสดงความเป็นเจ้าของกระเป๋าเงินเฉพาะหนึ่งใบและอนุญาตการทำธุรกรรม

ในกรณีที่คุณสูญเสียการเข้าถึงกระเป๋าเงิน คำกู้คืน (Seed Phrase) ซึ่งเป็นชุดคำตั้งแต่ 12 ถึง 24 คำ สามารถใช้ในการกู้คืนกระเป๋าเงินได้ กล่าวง่าย ๆ กุญแจส่วนตัวเปรียบเสมือนรหัสผ่านสำหรับเข้าถึงบัญชีธนาคารออนไลน์ของคุณ ในขณะที่คำกู้คืนเปรียบเสมือนคำตอบสำหรับคำถามเพื่อความปลอดภัยที่ใช้กู้คืนรหัสผ่านที่สูญหาย

น่าเสียดายที่การโจรกรรมคริปโตส่วนใหญ่เกิดจากการที่แฮ็กเกอร์เข้าถึง private keys ผ่านการแฮ็กแพลตฟอร์มหรือวอลเล็ท รวมถึงการหลอกลวงที่ทำให้ผู้ใช้งานเปิดเผยข้อมูลสำคัญเหล่านี้ หากเจ้าของสินทรัพย์สูญเสียหรือทำลาย private keys และ seed phrases โดยไม่ได้ตั้งใจ โทเคนของพวกเขาอาจสูญหายไปอย่างถาวร นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่คุณควรเก็บรักษา private keys และ seed phrases ของคุณอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ หากคุณเลือกใช้งานวอลเล็ทแบบ non-custodial

ข้อดีของวอลเล็ทแบบ Non-Custodial

  • คุณถือครอง keys ของวอลเล็ทด้วยตัวคุณเอง
  • มีระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้น
  • สามารถเข้าถึง DeFi ได้

ข้อเสียของวอลเล็ทแบบ Non-Custodial

  • ใช้งานได้ยากกว่า
  • คุณต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยด้วยตัวเอง
  • การสนับสนุนลูกค้าจะมีระดับต่ำกว่า
  • หากคุณสูญเสีย private keys หรือ recovery phrases จะไม่สามารถกู้คืนเงินทุนได้

วอลเล็ทแบบ Non-Custodial ที่ดีที่สุดคืออะไร?

ไม่มีวอลเล็ทแบบ non-custodial เดียวที่จะเหมาะสมกับทุกความต้องการ แต่มีวอลเล็ทคริปโตบางตัวที่โดดเด่น

KuCoin Wallet เป็นวอลเล็ทคริปโตแบบ non-custodial ที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย รองรับการทำงานแบบ multi-chain และได้รับการสนับสนุนโดยระบบนิเวศของ KuCoin การทดสอบเบต้าสาธารณะของวอลเล็ทนี้มีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 3 ล้านราย KuCoin Wallet เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมหากคุณต้องการส่ง รับ และเทรดคริปโตและ NFT ถือครอง keys ของคริปโตของคุณ เข้าถึง web3 รวมถึงเชื่อมต่อกับหนึ่งในระบบนิเวศของแพลตฟอร์มเทรดที่ใหญ่ที่สุด

อีกตัวเลือกที่ได้รับความนิยมคือ Exodus — วอลเล็ทแบบ non-custodial บนเดสก์ท็อปที่รองรับคริปโตมากกว่า 100 สกุล ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันแลกเปลี่ยนคริปโตในตัวที่ช่วยให้คุณเทรดระหว่างคริปโตต่าง ๆ ได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยสูง เนื่องจาก private keys ถูกเข้ารหัสบนอุปกรณ์ของคุณและไม่ถูกจัดเก็บออนไลน์

เมื่อพูดถึงการเข้าถึง DeFi ผ่านวอลเล็ทแบบ non-custodial เราไม่สามารถละเลย MetaMask ซึ่งเป็นวอลเล็ทแบบ non-custodial ที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 30 ล้านราย MetaMask มาในรูปแบบแอปมือถือ/แท็บเล็ต หรือส่วนขยายเบราว์เซอร์ ทำให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายและสะดวกมาก

อีกวิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับการใช้งานวอลเล็ทแบบ non-custodial คือการใช้วอลเล็ทฮาร์ดแวร์ เช่น Ledger หรือ Trezor วอลเล็ทเหล่านี้เป็นแบบ cold storage ที่รองรับคริปโตมากกว่า 1,000 สกุล พวกมันเป็นวิธีการจัดเก็บ private keys ที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจาก keys ถูกจัดเก็บแบบออฟไลน์บนอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และมีการรองรับหลายภาษา

ท้ายที่สุดแล้ว กระเป๋าเงินแบบไม่มีผู้ดูแล (non-custodial wallet) ที่ดีที่สุดสำหรับคุณคือกระเป๋าเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้มากที่สุด KuCoin Wallet เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีรอบด้าน พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ส่วน Exodus เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณกำลังมองหากระเป๋าเงินที่ใช้งานง่ายและมาพร้อมฟีเจอร์แลกเปลี่ยนคริปโตในตัว สำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

กระเป๋าเงินประเภทใดที่เหมาะกับคุณ?

ประเภทของกระเป๋าเงินที่คุณเลือกควรขึ้นอยู่กับความต้องการและจุดประสงค์ของคุณ

หากคุณแค่ต้องการซื้อและขายคริปโตเคอร์เรนซี หรือสนใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ของแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยที่ไม่อยากรับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยของกระเป๋าเงินด้วยตัวเอง กระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแล (custodial wallet) จะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะใช้งานง่าย และคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเงินทุน เราขอแนะนำกระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแลให้กับผู้เริ่มต้นในวงการคริปโต นักเทรดคริปโต และผู้ที่ยังไม่มีแผนในการก้าวเข้าสู่ DeFi ในเร็ว ๆ นี้

แต่หากคุณต้องการเข้าถึงแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (decentralized applications) ใช้ประโยชน์จากเงินทุนในรูปแบบอื่น ๆ หรือเพียงแค่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยของเงินทุนให้มากที่สุด กระเป๋าเงินแบบไม่มีผู้ดูแล (non-custodial wallet) จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะกระเป๋าเงินประเภทนี้ให้ประโยชน์การใช้งานที่หลากหลายและมีระดับความปลอดภัยที่สูงกว่า เราขอแนะนำกระเป๋าเงินแบบไม่มีผู้ดูแลให้กับผู้ใช้ที่ต้องการจัดการความปลอดภัยด้วยตัวเอง และสนใจทดลองใช้บริการด้านการเงินแบบกระจายศูนย์

สุดท้ายนี้ การตัดสินใจเลือกกระเป๋าเงินประเภทใดขึ้นอยู่กับคุณ ควรพิจารณาความต้องการและจุดประสงค์ของคุณอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ หากคุณยังไม่แน่ใจว่ากระเป๋าเงินประเภทใดเหมาะกับคุณ เราแนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติม หรือแม้แต่ลองใช้งานกระเป๋าเงินทั้งสองประเภทดู เพื่อเปรียบเทียบและค้นหาสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

 

คำปฏิเสธความรับผิดชอบ: หน้านี้แปลโดยใช้เทคโนโลยี AI (ขับเคลื่อนโดย GPT) เพื่อความสะดวกของคุณ สำหรับข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด โปรดดูต้นฉบับภาษาอังกฤษ