คำถามที่พบบ่อย: ระดับขีดจำกัดความเสี่ยง

ระดับขีดจำกัดความเสี่ยงคืออะไร?

ระดับขีดจำกัดความเสี่ยง เป็นกลไกการจัดการความเสี่ยงที่จำกัดความเสี่ยงด้านโพสิชันให้กับนักเทรด ในตลาดที่ผันผวน นักเทรดที่ใช้เลเวอเรจสูงและถือโพสิชันขนาดใหญ่อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดเมื่อถูกชำระบัญชี จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อนักเทรดรายอื่น ฉะนั้น ฟิวเจอร์สของ KuCoin ใช้กฎระดับขีดจำกัดความเสี่ยงกับผู้ใช้ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่านักเทรดที่มีโพสิชันขนาดใหญ่ต้องมีการวางหลักประกันขั้นต้นมากขึ้นเพื่อถือโพสิชัน ควบคุมความเสี่ยง และปกป้องผู้ใช้รายอื่นจากความเสี่ยงเพิ่มเติม เมื่อโพสิชันขนาดใหญ่ถูกชำระบัญชี แนวทางการลดโพสิชันแบบระดับขั้นจะถูกใช้ เพื่อลดผลกระทบต่อตลาดให้น้อยที่สุด

ระดับขีดจำกัดความเสี่ยงประกอบด้วยห้าองค์ประกอบ ได้แก่ ระดับ, ขีดจำกัดความเสี่ยง (มูลค่าโพสิชัน), อัตราหลักประกันรักษาสภาพ, อัตราหลักประกันขั้นต้นขั้นต่ำ, และเลเวอเรจสูงสุดที่ใช้ได้ ระดับขีดจำกัดความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของมูลค่าโพสิชัน เมื่อระดับเพิ่มขึ้น ทั้งอัตราหลักประกันรักษาสภาพและอัตราหลักประกันขั้นต้นก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน (หรือก็คือ มาร์จิ้นแบบเป็นลำดับขั้น) อย่างไรก็ตาม ยิ่งมูลค่าโพสิชันสูงเท่าใด เลเวอเรจสูงสุดที่ใช้ได้ก็จะยิ่งต่ำลงเท่านั้น

ลองใช้สัญญา BTC/USDT Perpetual เป็นตัวอย่าง

阶梯风险限额.png

เมื่อขีดจำกัดความเสี่ยง (มูลค่าโพสิชัน) เท่ากับ 5,000 USDT โดยระดับที่สอดคล้องกันคือ 1, อัตราหลักประกันรักษาสภาพ 0.4%, อัตราหลักประกันขั้นต้นขั้นต่ำ 0.8%, และเลเวอเรจสูงสุด 125x เมื่อขีดจำกัดจำนวยสูงถึง 500,000 USDT ระดับจะเป็น 2 โดยมีอัตราหลักประกันรักษาสภาพ 0.7%, อัตราหลักประกันขั้นต้น 1.4%, และเลเวอเรจสูงสุด 75x เมื่อระดับขีดจำกัดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เกณฑ์มาร์จิ้นจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น และเลเวอเรจที่ใช้ได้จะลดลง

 

วิธีการดูระดับขีดจำกัดความเสี่ยง

1. ในขณะที่เข้าสู่ระบบ ในหน้าการเทรดของเว็บไซต์ ให้คลิก เอกสารอ้างอิง แล้วคลิกที่ ขีดจำกัดความเสี่ยง ที่มุมล่างขวา เพื่อเข้าถึงหน้าการสอบถามข้อมูล

階梯風險限额 -2.png

2. หลังจากเข้าสู่ระบบแล้ว ให้คลิกที่นี่เพื่อดู

 

ผลกระทบของระดับขีดจำกัดความเสี่ยงต่อการเทรดมีอะไรบ้าง?

โดยส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อการส่งคำสั่งและการชำระบัญชี

1. การส่งคำสั่ง: จำนวนและเลเวอเรจที่ใช้ได้สำหรับคำสั่งและการถือครอง จะถูกกำหนดโดยระดับขีดจำกัดความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น ในสัญญา BTC Forward Perpetual หากผู้ใช้อยู่ที่ระดับ 3 เลเวอเรจสูงสุดที่ใช้ได้สำหรับการส่งคำสั่งคือ 50x และขนาดโพสิชันสูงสุดคือ 1,000,000 USDT

2. การชำระบัญชี: ราคาชำระบัญชีของผู้ใช้จะคำนวณตามอัตราหลักประกันรักษาสภาพที่สอดคล้องกับระดับขีดจำกัดความเสี่ยง หากผู้ใช้ไม่ได้อยู่ที่ระดับ 1 โพสิชันจะถูกชำระบัญชีบางส่วนเพื่อลดระดับขีดจำกัดความเสี่ยง โดยกำไรหรือขาดทุนจากการชำระบัญชีนี้จะเข้าสู่ยอดคงเหลือในบัญชีของผู้ใช้โดยตรง หากผู้ใช้ที่ระดับ 1 โพสิชันจะถูกชำระบัญชีโดยตรงและถูกเทคโอเวอร์โพสิชัน ทั้งนี้ การชำระบัญชีบางส่วนใช้คำสั่ง Fill or Kill (FOK) หากคำสั่ง FOK ล้มเหลว โพสิชันทั้งหมดของผู้ใช้จะถูกชำระบัญชีและถูกเทคโอเวอร์

ตัวอย่าง:

ด้วยโพสิชัน 2,500,000 USDT ในสัญญา BTC Forward Perpetual คุณอยู่ที่ระดับ 5 ด้วยอัตราหลักประกันรักษาสภาพ 4% เมื่อการชำระบัญชีถูกทริกเกอร์ โพสิชันของคุณจะถูกลดลงก่อน ซึ่งจะลดมูลค่าโพสิชันลงไปที่ขีดจำกัดบนของระดับ 4 ซึ่งคือ 500,000 USDT (2,500,000 - 2,000,000) จากนั้นระบบจะปิดโพสิชันมูลค่า 500,000 USDT หลังจากการลดลงดังกล่าวแลัว ระดับขีดจำกัดความเสี่ยงของคุณจะลดลงไปที่ระดับ 4 และเกณฑ์หลักประกันรักษาสภาพจะลดลงเหลือ 3.4% ทำให้โพสิชันของคุณกลับสู่สถานะปกติ

 

ระดับการยืนยันตัวตนส่งผลกระทบต่อขีดจำกัดความเสี่ยงอย่างไร?

เมื่อกำหนดเลเวอเรจสูงสุด หากระดับการยืนยันตัวตนขัดแย้งกับระดับขีดจำกัดความเสี่ยง ระดับการยืนยันตัวตนจะถือว่ามีผลเหนือกว่า หากระดับการยืนยันตัวตนของคุณอนุญาตให้ใช้เลเวอเรจสูงสุด 5x และขีดจำกัดความเสี่ยงตามขนาดโพสิชันปัจจุบันของคุณอนุญาตให้ใช้เลเวอเรจสูงสุด 125x เลเวอเรจสูงสุดที่แท้จริงที่คุณสามารถใช้ได้คือ 5x คุณมีตัวเลือกในการปรับขีดจำกัดความเสี่ยงด้วยตนเอง แต่อัตราหลักประกันขั้นต้นจะอยู่ที่ 1 หารด้วยตัวคูณเลเวอเรจเสมอ ตัวอย่างเช่น หากเลเวอเรจสูงสุดปัจจุบันคือ 5x ฉะนั้น อัตราหลักประกันขั้นต้น= 1 / 5 * 100% = 20% อัตราหลักประกันรักษาสภาพจะปรับตามการเปลี่ยนแปลงในระดับขีดจำกัดความเสี่ยง

 

ผลกระทบของการเพิ่มขีดจำกัดความเสี่ยงต่อโพสิชัน

เมื่อปรับจากระดับที่ต่ำกว่าเป็นระดับที่สูงขึ้น คุณจะถูกจำกัดโดยขีดจำกัดของตัวคูณเลเวอเรจ หากเลเวอเรจของโพสิชันของคุณในระดับที่ต่ำกว่า มีค่าสูงกว่าค่าสูงสุดที่อนุญาตในระดับที่สูงขึ้น คุณจะต้องเพิ่มเติมมาร์จิ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิดโพสิชันในระดับ 1 ของสัญญา BTC/USDT ที่เลเวอเรจ 125x และต้องการปรับไปยังระดับ 2 ซึ่งรองรับเลเวอเรจสูงสุด 75x มาร์จิ้นเพิ่มเติมที่ต้องการ = มูลค่าโพสิชัน * (1/75 - 1/125) = มูลค่าโพสิชัน * 2/375 หากบัญชีของคุณมีเงินทุนไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมจำนวนนี้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนว่าการปรับเปลี่ยนล้มเหลวเนื่องจากเงินทุนไม่เพียงพอ

 

ผลกระทบของการลดขีดจำกัดความเสี่ยงต่อโพสิชัน

เมื่อปรับจากระดับที่สูงกว่าไปยังระดับที่ต่ำลง โพสิชันจะถูกจำกัดโดยขนาดของการถือครอง หากมูลค่าโพสิชันสูงกว่าขีดจำกัดบนของระดับที่ต่ำลง เมื่อลดระดับขีดจำกัดความเสี่ยง ระบบจะแจ้งให้ผู้ใช้ลดโพสิชันลงไปที่ค่าสูงสุดของระดับที่สอดคล้องกันเป็นอย่างน้อย ก่อนที่จะลดระดับขีดจำกัดความเสี่ยงได้

 

หลังจากที่ลดโพสิชันลงแล้ว กำไรและขาดทุนของโพสิชันจะถูกคำนวณอย่างไร?

กำไรและขาดทุนของโพสิชันจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน:

สำหรับส่วนที่ลดลงโดยอัตโนมัติ กำไรและขาดทุนของโพสิชันหลังจากการทำธุรกรรมจะคำนวณตามราคาธุรกรรมจริงของการลดลง สำหรับการลดโดยอัตโนมัติ โพสิชันจะถูกปิดโดยใช้คำสั่ง Limit ภายใน 5% ของราคา Mark ของสัญญา นอกจากนี้ กำไรและขาดทุนจากการลดจะถูกชำระไปยังยอดคงเหลือที่มีอยู่ของผู้ใช้

โพสิชันที่เหลือหลังจากการลดลงจะยังคงใช้ในการคำนวณ Unrealized P/L ตามราคา Mark

 

คำสั่ง FOK (Fill or Kill) ที่ล้มเหลวมีผลกระทบต่อโพสิชันอย่างไร?

การลดโพสิชันลงบางส่วนจะดำเนินการโดยใช้คำสั่ง Fill or Kill (FOK) ซึ่งหากการดำเนินการคำสั่ง FOK ล้มเหลว โพสิชันทั้งหมดจะถูกชำระบัญชีและถูกเทคโอเวอร์ ตัวอย่างเช่น ที่ระดับขีดจำกัดความเสี่ยง 4 หากคำสั่ง FOK ดำเนินการล้มเหลว โพสิชันจะถูกเทคโอเวอร์และถูกชำระบัญชีเต็มจำนวน

 

วิธีการปรับระดับขีดจำกัดความเสี่ยง

เว็บไซต์: คลิกที่ไอคอนการตั้งค่า ⚙️ ที่มุมบนขวาของหน้าและไปที่ "การตั้งค่าการเทรด" - "ขีดจำกัดความเสี่ยง"

階梯風險限额-3.png階梯風險限额 -4.png

แอป: คลิกไอคอนการตั้งค่า "..." ที่มุมบนขวา และไปที่ "การตั้งค่าการเทรด" - "ขีดจำกัดความเสี่ยง"

階梯風險限额 -5.png階梯風險限额 -6.png

เริ่มการเทรดฟิวเจอร์สตอนนี้!

blobid0.png

 

คู่มือ KuCoin Futures:

บทแนะนำเวอร์ชันเว็บไซต์

บทแนะนำเวอร์ชันแอป

 

ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุน!

ทีมงาน KuCoin Futures

 

หมายเหตุ: ผู้ใช้จากประเทศและภูมิภาคที่ถูกจำกัดไม่สามารถเปิดการเทรดฟิวเจอร์สได้